รีวิว Samsung Galaxy GEAR ฉบับควักกระเป๋าซื้อเอง (ตอนที่ 1)

อาจมีหลายคนได้ทดลองใช้นาฬิกาสุดไฮเทคอย่าง Samsung Galaxy Gear ไปบ้างแล้วจากงานต่างๆ ที่ทางซัมซุงเอามาให้ทดลองเล่นกัน แต่ก็คงเป็นช่วงสั้นๆ สำหรับบทความนี้ผมจะรีวิวแบบใช้งานจริงที่ควักเงินในกระเป๋าซื้อเอง ไม่ได้รับแจกมาแต่อย่างใดทั้งสิ้น! ขอบอกก่อนนะครับว่าความเห็นส่วนตัวล้วนๆ เลย ไม่เห็นด้วยไม่ว่ากัน

แกะกล่องออกมาก็เห็นสายและแท่นชาร์จเป็นสีส้มสดใสเข้าชุดกัน ใครใช้สีอื่นก็คงได้ที่สีกลมกลืนโทนเดียวกันไปด้วย ส่วนใครที่คุ้นกับผมคงรู้อยู่แล้วว่าต้องสีส้มเท่านั้นถึงจะจี๊ดได้ใจ พูดเลย!?

แท่นชาร์จมีช่องให้เสียบสาย Micro USB ด้วย จะใช้อะแดปเตอร์ที่ให้มาหรือแบบทั่วไปก็ได้ ส่วนตัวนาฬิกาต่อกับแท่นชาร์จด้วยแผ่นทองแดงเล็กๆ 5 ขั้ว คล้ายกับที่ใช้ในโทรศัพท์ไร้สายตามออฟฟิศ การที่ไม่มีช่องเสียบ USB มาให้ที่ตัวนาฬิกาเลยก็น่าจะเพราะนาฬิกามันต้องกันน้ำได้ ขืนมีช่องเสียบก็ต้องมานั่งทำแผงยางกันน้ำอุดกันอีก เพิ่มความเสี่ยงเปล่าๆ ยังงี้น่าจะดีแล้ว นอกจากนี้แท่นชาร์จยังทำหน้าที่เป็น ตัวช่วยในการเชื่อมต่อแบบ NFC เพื่อให้เอามาแตะกันแล้วสามารถ connect Bluetooth ได้เลยโดยไม่ต้อง pair ให้ยุ่งยาก (เสียดายว่าผมลองหนแรกแล้วไม่เห็น เวิร์ก สักพักก็เลยเลิก หันมาใช้วิธี pair Bluetooth แบบ Manual เอาดีกว่า ชัวร์ดี ว่างๆ ค่อยลองใหม่ คาดว่าถ้าพยายามจริงๆ คงเวิร์กแหละ)

สีส้มจี๊ดได้ใจจริงๆ

สีส้มจี๊ดได้ใจจริงๆ

แท่นชาร์จสีเข้ากัน สังเกตเข็มทองแดง 5 จุดที่ต่อกับตัว GEAR แบบนี้น้ำเข้าไม่ได้

แท่นชาร์จสีเข้ากัน สังเกตเข็มทองแดง 5 จุดที่ต่อกับตัว GEAR แบบนี้น้ำเข้าไม่ได้

 

อ้อ! บอกก่อนว่าผมเอามาใช้กับ Galaxy S4 นะครับ พอดี Note 3 ไม่ว่าง ติดใช้งานอื่นอยู่?

ก่อนจะใช้กับ Galaxy Gear ได้ก็ต้องไปโหลดแอพ Galaxy Gear Manager จากสโตร์ Samsung Apps มาก่อน (ไม่ต้องไปหาใน Google Play Store นะครับ ไม่มี) ไม่งั้นแพร์ด้วยบลูทูธไปแล้วทำอะไรไม่ได้ เป็นได้แค่หูฟังกับไมโครโฟนเท่านั้นเอง พอได้แอพนี้มาแล้วก็สามารถทำอะไรได้อีกหลายอย่าง เช่น

  • โหลดแอพอื่นๆ ของ Gear มาติดตั้งก็ต้องทำผ่านแอพนี้ (ตอนนี้ก็เริ่มมีมาบ้างแล้ว ต่อไปคงค่อยๆ ทยอยมาเพิ่มเรื่อยๆ) ซึ่งมีทั้งประเภทแสดงรูปแบบนาฬิกาเก๋ๆ แนวๆ
  • ตั้งค่าการทำงานของบางแอพบน Gear เช่น นาฬิกา กล้อง การเปิดหน้าจอดูเวลาเมื่อเราทำท่ายกนาฬิกาขึ้นมาดู เป็นต้น
  • ดูรายการโทรศัพท์ (call log) และรายชื่อ contact ของมือถือบน Gear
  • สั่งให้ transfer ภาพและวิดีโอที่ถ่ายมายังมือถื
  • หา Gear จากมือถือ หรือหามือถือจาก Gear โดยสั่งให้ส่งเสียงบนอีกอุปกรณ์หนึ่ง

ต่อไปนี้ก็จะเล่าเป็นเรื่องๆ ไปว่าลองเล่นลองใช้แล้วถูกใจไม่ถูกใจยังไงบ้าง

การออกแบบ

สีสันหน้าตาถือว่าใช้ได้ทีเดียว อันนี้ไม่ใช่เฉพาะสีส้ม แต่ทุกสีดูดีมีชาติตระกูลพอสมควร วัสดุที่ทำสายก็ไม่ look cheap ใส่เป็นนาฬิกาแฟชั่นได้สบายๆ ?ถ้าโหลดแอพสำหรับปรับแต่งหน้าตาให้ดูโมเดิร์นหน่อยมาใช้ก็จะแจ่มเลย ขนาดและน้ำหนักก็ไม่ใหญ่เกินไปนัก (อันนี้คงขึ้นกับความขอบส่วนตัว บางคนที่อยากได้นาฬิกาบางเฉียบคงต้องรอไปก่อน แต่ถ้าเป็นคนที่ใช้เรือนขนาดกลางๆ ได้ ขนาดของ Galaxy Gear ก็ถือว่าโอเคแล้ว)

กล้องกับการถ่ายภาพ

คุณภาพของภาพถ่ายและวิดีโอที่ออกมาก็ไม่เลว ถือว่าใช้ได้สำหรับความละเอียดกล้องแค่นี้ แต่ที่ไม่ชอบคือตำแหน่งของกล้องนี่แหละ ทำไมมันต้องทำยื่นออกมาตรงสายด้วยก็ไม่รู้ ถ้าสามารถซ่อนอยู่ในขอบด้านบนของตัวเครื่องจะเนียนกว่านี้?ซึ่งการถ่ายมันก็ต้องใช้ท่าเดิมมุมเดิมเหมือนกันนั่นแหละ เพียงแต่สายไม่ปูดออกมา อ้อ! อีกอย่างคือเสียงชัตเตอร์ ถ้าปิดได้ก็จะดีมาก กล้องที่ข้อมือนี่น่าจะเอาไว้ถ่ายอะไรเงียบๆ แบบไม่กระโตกกระตาก ไม่งั้นงัดเอามือถือมาถ่ายเลยก็ได้ ง่ายกว่ามั้ย 🙁 เดี๋ยถ้าหาวิธีปิดเสียงชัตเตอร์เจอจะรีบมาบอกต่อครับ

ใช้เป็นนาฬิกา

หน้าตาแบบนาฬิกาดิจิตอล บอกเวลา วันที่ สภาพอากาศได้ด้วย

หน้าตาแบบนาฬิกาดิจิตอล บอกเวลา วันที่ สภาพอากาศได้ด้วย

อันนี้ได้คะแนนแค่ผ่าน แต่ไม่เต็ม คือยังดูเวลาไม่ได้ทุกทีที่ต้องการ ที่จริงไอเดียของซัมซุงก็ถือว่าดีที่เพิ่มการตรวจจับท่าทางของเรา (น่าจะเป็นตัวที่เรียกว่า Accelerometer แบบเดียวกับในสมาร์ทโฟนนั่นแหละ) ?คือเวลายกข้อมือขึ้นมาดูนาฬิกาปั๊บ หน้าจอของ Gear ที่ปกติปิดอยู่เพื่อประหยัดไฟก็จะแสดงหน้าจอเป็นนาฬิกาให้ดู (เกือบ) ทันที แต่ลองแแล้วยังไม่ค่อยทันใจและไม่แน่นอนเท่าที่อยากได้สักเท่าไหร่ คือหลายๆ ครั้ง (ประมาณครึ่งหนึ่ง) ที่ยกข้อมือขึ้นมาแล้วหน้าจอมันไม่ยอมติดสะงั้น เขย่าก็แล้ว สุดท้ายต้องใช้อีกมือกดปุ่มเปิดจอดูเอง อาจจะเป็นเพราะยกช้าหรือค่อยๆ ไปหน่อย ไม่งั้นอีกวิธีคือถ้าห้อยแขนอยู่ข้างตัวแล้วยกกวาดยาวๆ ขึ้นมาดู แบบนั้นจะได้ผลค่อนข้างแน่นอน [แต่ก็ยังหน่วงนิดๆ ต้องรอ 2-3 วินาทีกว่าจอจะติดขึ้นมา] เอาเป็นว่าผมคงยังทำท่าไม่ถูกกับที่ Gear ตั้งโปรแกรมมาให้ตรวจจับได้ก็แล้วกัน ต้องฝึกอีกหน่อย

 

การโทรออก – รับสาย

อันนี้ก็ชอบครึ่งนึง คือสะดวกดีตอนขับรถอยู่ ใครโทรเข้ามาก็สามารถยกข้อมือมาดูและแตะรับสายหรือตัดสายได้เลย คุณภาพเสียงก็ถือว่าชัดเจนดี ตอนที่มีสายเข้ามา ถ้าเป็นคนที่มีชื่อใน Contacts ก็จะแสดงภาพและชื่อให้ดู ซึ่งสามารถสไลด์เพื่อรับหรือตัดสายได้แบบเดียวกับบนหน้าจอสมาร์ทโฟนเลยเลย [หมายเหตุ : ผมลองตอนแรกๆ ไม่ยอมขึ้นชื่อและเบอร์ ไม่รู้ทำไม แต่แสดงถูกต้องใน log แต่ใช้ไปสักพักกลายเป็นแสดงได้ถูกต้องตลอด ไม่เข้าใจว่าทำไม หรือมันซิงค์รายชื่อ contacts มาเก็บยังไม่ครบ เพระาผมมีตั้งสองพันกว่าชื่อ ?ไหนใครมีมากกว่านี้ขอมือหน่อย??] แต่ที่ยังขัดใจมีหลักๆ คือ

  • ตอนโทรหาคนอื่น จะโทรจากหน้าจอ Contact ก้ได้ และยังมีหน้าจอ keypad ให้กดเบอร์ด้วย ถึงจะตัวจิ๋วกดยากไปหน่อย แต่หน้าจอมันเล็กจริงๆ ปุ่มเลยต้องเล็กตามก็ไม่ว่ากัน เพราะไม่ค่อยได้ใช้หรอก ที่อยากได้จริงๆ คือเบอร์ที่อยู่ในรายการ favorite หรือ frequently contact มากกว่า อันนี้โทรบ่อยกว่าเยอะแต่ไม่ยักกะมีให้กดเลือก แล้วใครจะไปจำได้ ก็บอกแล้วว่าตั้งสองพันชื่อ ยังไงฝากถึงทีมงาน Samsung ขอหน้าจอนี้แทนจอปุ่มตัวเลข keypad ดีกว่ามั้ย
  • เรื่องลำโพงกับไมโครโฟนนี่ก็คิดแต่แรกแล้วว่าตอยนใช้งานคงรู้สึกแปลกๆ เพราะลำโพงอยู่ตรงที่ล็อกสายด้านล่างข้อมือ ส่วนไมโครโฟนอยู่ด้านข้างตัวเรือนนาฬิกา เวลาคุยก็ให้อารมณ์เดียวกับประมาณคุยออก speaker นั่นแหละครับ คนข้างๆ ได้ยินหมดว่าคุยอะไรกัน (อันตรายมากสำหรับคนที่มีความลับเยอะ 555) แต่ก็สะดวกดีตรงที่ไม่ต้องหยิบเครื่องโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋า?เช่นตอนขับรถอยู่ ถือว่าเวิร์กเลย นอกจากกรณีงานเข้า เช่นคนนั่งข้างๆ เป็นคนที่เราไม่อยากให้ได้ยินเสียงคนที่โทรหาเรา อันนั้นก็ตัวใครตัวมันกันละนะครับ ฮาอ่ะ

เรื่องแบตเตอรี่

อันนี้ Samsung คุยว่าอยู่ได้ 25 ชั่วโมง ผมก็นึกแล้วว่ามันต้องจวนเจียนแน่ๆ คือถ้าจะบอกว่าอยู่ได้ไม่ถึง 24 ชั่วโมงเดี๋ยวคนไม่กล้าใช้ สรุปจากที่บองคือถ้าใช้เยอะๆ ถ่ายโน่นนี่นั่น วิดีโอ แล้ว transfer ไปเข้ามือถือ แบตจะอยู่ได้ไม่ถึง 24 ชั่วโมงครับ แถมพอเหลือแค่ 15% กล้องและบางฟังก์ชั่นจะตัดการทำงานไปเลยก่อนแบตจะหมดเสียอีก แต่ถ้าใช้ไม่มาก นับก้าวออกกำลัง (pedometer) ถ่ายรูปนิดหน่อย โทรออกหรือรับสายบ้าง ก็น่าจะอยู่ได้ตามสเป็คที่ซัมซุงบอกไว้ ส่วนตอนชาร์จก็ไม่นานครับ จากที่แบตหมดเกลี้ยงจนปิดตัวเองเลย ชาร์จราวๆ ชั่วโมงเศษๆ ก็เต็มแล้ว

มีข้อสังเกตเรื่องแบตเตอรี่อีกอย่างคือพอต่อกับ Gear แล้วนี่แบตมือถือผม (ย้ำอีกทีว่าลองกับ Galaxy S4 ไม่ใช่ Note 3) มันหมดเร็วกว่าปกติมาก สงสัยเป็นตอนเปิดจอค้างนานๆ หรือ transfer ข้อมูลวิดีโอละมัง?

สรุปว่ายังไงดี?

เล่นมาวันนึงแล้ว ที่ไม่เวิร์กก็มีเรื่องยังลงแอพเสริมไม่ได้ กับเรื่องการเชื่อมต่อครั้งแรกด้วย NFC ที่ว่าเอาเครื่องทาบกับแท่นชาร์จแล้วไม่ต้องไปสั่ง pair ใน Bluetooth สองอันนี้เดี๋ยวต้องรอไปเอาเครื่อง Note 3 มาลองดูอีกที ไม่ว่ากันเพราะยังไม่ได้พยายามจริงจัง ได้ผลยังไงตอนหน้าจะมาเล่าต่อครับ

แอพ LINE ก็มีมาให้นะ แต่ยังไม่ได้ setup

แอพ LINE ก็มีมาให้นะ แต่ยังไม่ได้ setup

แต่ส่วนที่ใช้งานทั่วๆไป เป็นนาฬิกา เป็นกล้อง เป็นหูฟังบลูทูธ ผมก็ว่าโอเคในระดับหนึ่ง เรื่องแบตเตอรี่ก็เหมือนกัน คือถ้าชาร์จเต็มใส่ออกจากบ้านตอนเช้า กลับมาชาร์จก่อนนอน เช้าเต็มก็ใส่ไปใหม่ ก็พอรับได้เหมือนกับมือถือเครื่องนึงนั่นแหละ แต่ถ้าจะเอาติดตัวเดินทางไปไหนๆ จะเริ่มรู้สึกลำบาก เพระาต้องเอาแท่นชาร์จไปด้วย และเพิ่มอุปกรณ์ที่จะต้องมาแย่งที่ชาร์จกันอีกตัวนึง

รวมๆ แล้วถือว่าใส่เล่นได้อย่างจริงจัง โดยเฉพาะช่วงนี้ใส่ไปไหนก็คงมีคนมอง (ก็สีส้มซะยังงั้น) จะโชว์พาวด้วยฟังก์ชั่นทั้งหลายแหล่ให้ใครดูก็ถือว่าน่าทึ่งในระดับหนึ่ง แต่ถ้ามีซอฟต์แวร์รุ่นใหม่ที่ปรับปรุงจุดต่างๆ ที่ผมบอกไป (ซึ่งน่าจะทำได้ไม่ยาก แต่ต้องให้เวลาทีมงานหน่อย) ก็จะดีขึ้นมาก หรือไม่แน่นะ ซอฟต์แวร์เสริมที่ผมยังลงไม่สำเร็จบางตัวอาจจะมีคนแก้ปัญหาพวกนี้ไปแล้วก็ได้ เดี๋ยวรอดูกัน

ส่วนใครที่จะหวังให้ฮาร์ดแวร์มันมีความสามารถมากกว่านี้ คงต้องรอปีหน้า เพราะแค่นี้ผมว่าทีมงานวิศวกรของซัมซุงก็รีบกันหูตูบแล้วกว่าจะสามารถยัดคุณสมบัติต่างๆ ที่มีลงไปได้หมดในนาฬิกานี่

สรุปว่าน่าใส่เล่นมาก แต่ไม่ถึงกับขาดไม่ได้ หรือน่าเสียดายถ้าไม่มีครับ (ปล. คาดว่าจะมีรีวิวต่อตอนหน้า ถ้าไม่ขี้เกียจเขียนจนเกินไป 555)